ฤดูหนาวกำลังมาถึงแล้ว
อากาศแห้งและความชื้นไม่เพียงพอ
ฝุ่นละอองในอากาศไม่เกาะตัวกันง่าย
เสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ดังนั้นในฤดูหนาว
มลภาวะอากาศภายในอาคารกำลังแย่ลง
การระบายอากาศแบบเดิมนั้นยากที่จะบรรลุผลในการฟอกอากาศ
หลายครอบครัวซื้อเครื่องฟอกอากาศ
อากาศมีการรับประกัน
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ
บางคนบอกว่าเครื่องฟอกอากาศจำเป็นต้องมี
เปิดทิ้งไว้ 24 ชม. ให้มีผล
แต่การทำเช่นนี้จะเพิ่มการใช้พลังงาน
บางคนบอกให้เปิดตอนใช้
วิธีใช้ให้มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
มาดูกันดีกว่า
ในปัจจุบันมีแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลักอยู่ 2 แหล่ง คือ ฟอร์มาลดีไฮด์จากการตกแต่งบ้าน และหมอกควันภายนอกบ้าน
หมอกควันเป็นมลพิษในรูปแบบของแข็ง ในขณะที่ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นมลพิษในรูปแบบก๊าซ
เครื่องฟอกอากาศจะสูดอากาศเข้าไปอย่างต่อเนื่อง กรองมลพิษที่เป็นของแข็ง ดูดซับมลพิษในรูปก๊าซ แล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา ซึ่งจะทำซ้ำวงจรนี้อย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปเครื่องฟอกอากาศจะมีตัวกรอง HEPA และคาร์บอนกัมมันต์ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการดูดซับหมอกควันและฟอร์มาลดีไฮด์
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ
พร้อมประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกด้วย
แล้วเวลาเปิด-ปิดเครื่องฟอกอากาศ
จะต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
เปิดบริการตลอดวัน
–>หมอกควันหนาทึบ บ้านเพิ่งปรับปรุงใหม่
หากเป็นหมอกควันหนาหรือบ้านที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ แนะนำให้เปิดทิ้งไว้ทั้งวัน ในช่วงเวลานี้ คุณภาพอากาศภายในอาคารค่อนข้างแย่ ในทางกลับกัน PM2.5 จะค่อนข้างสูง และบ้านที่เพิ่งปรับปรุงใหม่จะยังคงระเหยสารฟอร์มาลดีไฮด์ต่อไป การเปิดเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในอาคารค่อนข้างดี
เปิดเครื่องเมื่อคุณกลับถึงบ้าน
–>สภาพอากาศประจำวัน
หากสภาพอากาศไม่เลวร้ายมากนัก คุณสามารถเปิดเกียร์อัตโนมัติได้หลังจากกลับถึงบ้าน และปล่อยให้เครื่องฟอกอากาศทำงานตามสถานการณ์ภายในอาคารเพื่อให้แน่ใจว่าอากาศภายในอาคารจะถึงระดับที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยอย่างรวดเร็ว
โหมดสลีปเปิดอยู่
–>ก่อนเข้านอนตอนกลางคืน
ก่อนเข้านอนตอนกลางคืน หากเครื่องฟอกอากาศอยู่ในห้องนอน คุณสามารถเปิดโหมดสลีปได้ ในทางกลับกัน เสียงรบกวนที่เบาจะไม่ส่งผลต่อการนอนหลับ และการไหลเวียนและความสะอาดของอากาศภายในห้องก็จะได้รับการปรับปรุง
โปรดติดตามตอนต่อไป…
เวลาโพสต์: 15 ธันวาคม 2564